ลูกจีนฮากกา อวดเสียงเพลงจากถิ่นกำเนิด
หลินเซิงเสียง เกิดที่เขตเหม่ยหนง (美濃) นครเกาสง ถือเป็นลูกเกษตรกรเต็มตัว ในปีค.ศ.1998 หลินเซิงเสียงได้กลับไปที่บ้านเกิดเพื่อร่วมประท้วงต่อต้านการสร้างเขื่อนเหม่หนง ก่อนจะร่วมมือกับวงดนตรี Labor Exchange Band ทำการบันทึกเสียงในสภาพอัตคัดขัดสนในโรงบ่มยาสูบ สร้างผลงานอัลบั้ม 2 ชุด คือ Let Us Sing Mountain Songs และ The Night March of the Chrysanthemums ซึ่งถือเป็นต้นแบบผลงานเพลงเพื่อการรณรงค์ทางสังคมในไต้หวัน
หลินเซิงเสียงร่วมงานกับกลุ่มศิลปินที่หลากหลาย เริ่มจาก Kuan-tsu Music Pit ตามด้วย Labor Exchange Band และ Water 3 ปัจจุบันคือ Sheng-Xiang & Band มีสมาชิก 7 คน ประกอบด้วย หลินเซิงเสียง เป็นนักร้องนำและมือพิณวงเดือน จงหย่งฟง (鍾永豐) นักประพันธ์บทเพลงที่ประทับใจผู้คนนับไม่ถ้วน เคน โอทาเกะ (大竹研) ที่ร่วมมือกันยาวนานเป็นมือกีตาร์ โทรุ ฮายาคาวา (早川徹) ผู้มีพื้นฐานดนตรีแจ๊สที่ลึกล้ำเป็นมือเบส ในปีค.ศ.2013 อเล็กซ์ วู
(吳政軍) รับหน้าที่เป็นมือเพอร์คัชชัน เข้าร่วมวงในอัลบั้ม I-Village ต่อมาในปี 2016 ภายใต้แนวความคิดอัลบั้มคู่ Village Besieged จึงมีการเพิ่มสมาชิกอีก 2 คน คือโนริอะกิ ฟูกูชิมะ (福島紀明) เป็นมือกลอง และหวงป๋ออวี้ (黃博裕) มือปี่ กล่าวได้ว่า Sheng-xiang & Band สมบูรณ์แบบในการสร้างสรรค์จินตนาการทางดนตรี
ปีค.ศ.1993 หลินเซิงเสียงได้รับอิทธิพลจากนักร้องเพลงฮกเกี้ยนหน้าใหม่ เช่น เฉินหมิงจาง (陳明章) เป็นต้น จึงหันมาร้องเพลงฮากกา หลินเซิงเสียงบอกว่า “ผมตระหนักดีว่า คุณค่าทางศิลปะในการร้องเพลงฮากกา ซึ่งเป็นเพลงภาษาแม่ สูงกว่าเพลงภาษาจีนกลาง จึงต้องสร้างผลงานดีเลิศ จะไม่สร้างงานชั้นรอง ทำให้มีความมั่นคงแน่วแน่ มุ่งเน้นเดินบนเส้นทางเพลงฮากกา”
Let Us Sing Mountain Songs เป็นอัลบั้มเพลงที่บันทึกการรณรงค์ต่อต้านการสร้างเขื่อนเหม่ยหนง เป็นเพลงปลุกใจเพื่อให้เกิดปฏิสัมพันธ์กับมวลชนโดยใช้ดนตรีเป็นสื่อกลาง ที่สำคัญคือต้องการให้ผู้ร่วมชุมนุมร้องคลอไปด้วย เพลงแรกในอัลบั้ม ปลุกใจชาวบ้านจากเหม่ยหนงซึ่งไปประท้วงที่ไทเปว่าไม่ต้องหวาดกลัว เมื่อผู้อยู่บนเวทีร้องนำ “พวกเรามาร่วมร้องเพลงภูเขากัน” ผู้ที่อยู่ด้านล่างของเวทีก็ขับร้องสอดรับประสานเสียง ทำให้จิตใจฮึกเหิม อีกตัวอย่างหนึ่งคือ อัลบั้ม The Night March of the Chrysanthemums บรรยายเรื่องของเยาวชนในชนบทที่ไปทำงานในเมืองแต่ไม่ประสบความสำเร็จ จึงต้องกลับมาบ้านปลูกดอกเบญจมาศ และได้จินตนาการตนเองว่าเป็นผู้บัญชาการทหารรวมพลดอกเบญจมาศตั้งแถวตรงต่อหน้า จากนั้นทำการขานชื่อ การร้องเพลงนี้ในเวทีคอนเสิร์ต เมื่อเสียงดนตรีช่วงต้นเริ่มขึ้น ผู้ชมที่ด้านล่างของเวทีจะรู้สึกสนุกสนาน ทำตัวเองให้กลายเป็นดอกเบญจมาศยืนตรงขานรับว่า “อยู่ อยู่” หลินเซิงเสียงขานชื่อบนเวทีการแสดงในยามค่ำ ด้านล่างของเวทีก็มีส่วนร่วมขานตอบ ผสานกลมกลืนเป็นส่วนหนึ่งของการแสดง นี่คือเสียงร้องของประชาชนที่ร้องเพลงของตัวเอง
หลินเซิงเสียงร่วมกิจกรรมทางสังคม เช่น ร้องเพลงให้ผู้ด้อยโอกาสฟัง ในภาพเป็นเหตุการณ์ปีค.ศ.1999 ซึ่งชาวบ้านจากเหม่ยหนงไปประท้วงที่สภานิติบัญญัติ (ภาพจาก สมาคมเหม่ยหนงรักบ้านเกิด)