ถูกเมินอยู่ 23 วัน แลกกับใบสั่งซื้อหนึ่งใบ
นี่คืออีกฉากหนึ่งในเรื่องราวชีวิตของจันซีหลง เขาต้องยืนอยู่หน้าประตูโรงงานโตโยต้านานถึง 23 วัน เพื่อแลกกับออร์เดอร์
ปี 2000 คือปีที่จันซีหลงก่อตั้งธุรกิจเป็นปีที่ 5 เขาสามารถยืนด้วยลำแข้งตัวเองในไต้หวันได้แล้ว และคิดว่าอยากจะเพิ่มมูลค่าให้ตะแกรงเหล็กที่มีอยู่ เขาจึงปิ๊งไอเดียนึกถึงโรงงานรถยนต์ยักษ์ใหญ่ 2 แห่ง ที่ตั้งอยู่ด้านหลังโรงงาน
อะไหล่รถยนต์นั้นมีรายละเอียดซับซ้อน หลังจากเช็คสต็อกอย่างละเอียด จันซีหลงพิเคราะห์ว่า ภายในยังมีท่อไอเสียที่เป็นตะแกรงเหล็ก แผ่นกั้นระบบทำความเย็น จึงมองเห็นโอกาสที่จะนำสินค้าที่ตนผลิตเจาะตลาดโลหะภัณฑ์และรถยนต์ได้ แถมยังมีโรงงานรถยนต์ญี่ปุ่นอย่างโตโยต้าและอีซูซุตั้งอยู่ไม่ไกลจากโรงงานของตน ก็น่าจะดึงมาเป็นลูกค้าของตนได้
แต่ด้วยความเข้มงวด มีมาตรฐานสูงและชื่อเสียงระดับโลกของบริษัทญี่ปุ่น รวมทั้งจันซีหลงยังไม่มีคอนเนคชันกับสองบริษัทนี้ เขาจะทำอย่างไรดี?
จันซีหลงไม่มีทางเลือกอื่นใด นอกจากทำได้แค่สวมชุดยูนิฟอร์มของบริษัทไปยืนจังก้าอยู่ที่หน้าประตูของโรงงานโตโยต้าตั้งแต่เช้าตรู่ทุกวัน เมื่อเห็นวิศวกรของโตโยต้าผ่านมา เขาจะรีบโค้งคำนับ ก้มศีรษะต่ำ และตะโกนทักทายอยู่อย่างนั้นเรื่อยมาโดยไม่มีผู้ใดเหลียวแลสนใจเขาเลย จนกระทั่งวันที่ 23 ในที่สุดก็มีคนมาเรียกจันซีหลงเข้าไปพูดคุยเจรจาธุรกิจ และรับปากว่าจะหารือกับเขาอีกในโอกาสต่อไป
โตโยต้าส่งเจ้าหน้าที่ประเมิน 9 คน ไปตรวจความพร้อมของโรงงานของจันซีหลง แต่ทุกอย่างเป็นไปอย่างรวดเร็วราวสายลมเพียง 3 นาทีเท่านั้น ไม่มีแม้แต่เวลาที่จะแนะนำโรงงานให้เจ้าหน้าที่เหล่านี้ได้เข้าใจมากขึ้น น้ำชาที่เตรียมไว้ก็ยังไม่ทันได้เสิร์ฟด้วยซ้ำ
สิ่งที่จันซีหลงนึกไม่ถึงเลยก็คือ การมาเยือนของคณะเจ้าหน้าที่ประเมินของโตโยต้า ใช้เวลาสั้นๆ ดูที่ห้องน้ำและห้องครัว 2 จุด เท่านั้น แล้วก็เดินทางกลับทันที ในตอนแรกเขาไม่เข้าใจว่าทำไมถึงทำเช่นนี้ แต่ภายหลังก็กระจ่างว่า ห้องน้ำและห้องครัวที่ดูไม่สำคัญอะไร แต่เป็นตัวชี้วัดที่สามารถตัดสินถึงวิธีบริหารจัดการธุรกิจและใช้สังเกตวัฒนธรรมองค์กรได้
ถึงแม้ว่าโตโยต้าจะไม่ได้ให้ออร์เดอร์มาทันที แต่ได้ส่งพนักงานฝ่ายระบบการผลิตโตโยต้า (Toyota Production System, TPS) มาให้คำปรึกษาแก่จันซีหลงว่าต้องปรับปรุงการบริหารจัดการและกระบวนการผลิตอย่างไร หลังจากนั้น 8 เดือน ออร์เดอร์ระยะยาว 8 ปี มูลค่า 500 ล้านเหรียญไต้หวัน ก็เป็นของเขา ทั้งสองฝ่ายร่วมมือกันจนถึงทุกวันนี้ เมื่อพูดถึงสไตล์การทำงานที่เข้มงวดของฝ่ายญี่ปุ่น จันซีหลงหัวเราะและกล่าวว่า °ßจู้จี้สุดๆ!°®
หลังจากประสบความสำเร็จกลายเป็นซัพพลายเออร์ของโรงงานญี่ปุ่นได้แล้ว จันซีหลงยิ่งกระตือรือร้นในการขยายตลาดลูกค้าต่างประเทศ เช่น ในสินค้าตะแกรงระบายความร้อนในเตาอบไมโครเวฟของเกาหลีและญี่ปุ่น อย่างซัมซุง ชาร์ป ฯลฯ ตลอดจนถึงตะแกรงทำถังซักผ้าที่ใช้ในเครื่องซักผ้ายี่ห้ออิเล็กโทรลักซ์ของสวีเดน ล้วนผลิตโดย °ßไท้เซิ่งซิ่น°®
ด้วยวัย 54 บวกกับประสบการณ์การทำธุรกิจยาวนานกว่า 20 ปี เมื่อปี 2009 จันซีหลงเคยได้รับรางวัล SME Award จากกระทรวงเศรษฐการไต้หวัน สาธารณรัฐจีน จากการฝ่าฟันในเส้นทางธุรกิจที่ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ จันซีหลงผู้มีนิสัยไม่หวั่นต่อความยากลำบากย้ำว่า °ßแค่ลองคิดว่าชีวิตหลังจากนี้อีก 20 ปี จะเหลืออะไรให้ลูกหลานบ้าง เมื่อคำตอบอยู่ในใจ อารมณ์ก็ลิงโลดขึ้นมาในบัดดล°®
เข้าสู่ยุคทายาทรุ่นที่ 2 จันเยวี่ยนเชิน (詹苑琛) คนซ้าย ลูกสาวคนโตของคุณจันซีหลงได้ก้าวเข้ามาทำหน้าที่ในทีมบริหารของบริษัทแล้ว