ในปี ค.ศ.2016 ชาวนิวซีแลนด์ครอบครัวหนึ่งซึ่งสมาชิกในครอบครัวแยกย้ายไปอาศัยอยู่ในหลายประเทศ ทั้งเยอรมนี อาร์เจนตินา และสหรัฐอเมริกา โดยไม่ได้พบหน้าค่าตากันเป็นเวลานานหลายปี คุณพ่อซึ่งมีอาชีพเป็นพ่อครัว จึงตัดสินใจนัดรวมตัวกันที่ไต้หวัน ซึ่งเป็นดินแดนที่มีชื่อเสียงด้านอาหารเป็นอย่างมาก ก่อนที่พวกเขาจะมีโอกาสได้ไปร่วมทริปท่องเที่ยวแบบเดินเท้าของ Like It Formosa ซึ่งมีไกด์ภาษาอังกฤษคอยบริการ เพื่อทำความรู้จักกับไทเปในเชิงลึก แล้วค่อยไปเดินเที่ยวชิมอาหารแสนอร่อยกันต่อ

“Follow me!” หลังจากที่สถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ค่อย ๆ ทุเลาลง ชาวต่างชาติที่เดินทางมาท่องเที่ยวไต้หวันก็ได้เลือกเข้าร่วมโปรแกรมเดินเที่ยวฟรีแบบมีไกด์ของ Like It Formosa เริ่มจากทำเนียบประธานาธิบดี เดินไปตามถนนเคตากาลัน (Ketagalan) จนถึงสวนสาธารณะสันติภาพ 228 อันร่มรื่น

เพื่อให้เหล่านักท่องเที่ยวเข้าใจถึงเหตุการณ์ประท้วงครั้งใหญ่ที่เคยเกิดขึ้นเมื่อ 70 กว่าปีก่อน ไกด์ได้ขอให้นักท่องเที่ยว ก. สวมบทบาทเป็นคุณป้าขายบุหรี่ในเหตุการณ์โศกนาฏกรรม 28 กุมภาพันธ์ ค.ศ.1947 หรือที่เรียกย่อ ๆ ว่า เหตุการณ์ 228 และให้นักท่องเที่ยว ข. สวมบทบาทเป็นเจ้าหน้าที่ซึ่งมาตรวจจับคนขายบุหรี่เถื่อน โดยมีไกด์เป็นคนพากย์เสียง การใช้วิธีที่เหมือนกับการแสดงละครเวทีนี้ ทำให้เหล่านักท่องเที่ยวได้เข้าใจถึงเหตุการณ์ที่เรียกกันว่า White Terror หรือความน่าสะพรึงสีขาว บาดแผลและคราบน้ำตาที่ผ่านมา นำไปสู่การทวงคืนความยุติธรรม ทำให้ไต้หวันมีความเป็นประชาธิปไตยแบบในทุกวันนี้

จงซินหรู (ซ้าย) ผู้ก่อตั้ง Like It Formosa และหวงจ้งอี๋ C.O.O. นำมุมมอง
ที่แตกต่างมาแนะนำให้ชาวต่างชาติได้รู้จักไต้หวันในเชิงลึกมากขั้น (ภาพ:หลินเก๋อลี่)

เดินเข้าไปในฉากแห่งประวัติศาสตร์

นี่คือเส้นทางแห่งประวัติศาสตร์ที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวต่างชาติมากที่สุดของการเดินเที่ยวตามทริปของ Like It Formosa เริ่มตั้งแต่วัดหลงซานในแถบมังกะของไทเป เดินไปจนถึงอนุสรณ์สถานเจียงไคเชก ไกด์ได้นำพานักท่องเที่ยวเดินชมเรื่องราวของไต้หวันตั้งแต่สมัยราชวงศ์ชิง มาถึงยุคที่ญี่ปุ่นปกครอง ก่อนจะจบด้วยยุคของรัฐบาลสาธารณรัฐจีนในปัจจุบัน เหมือนกับได้เดินท่องไปในประวัติศาสตร์ผ่านเครื่องย้อนเวลา ไอเดียการจัดทริปเที่ยวชมตามเส้นทางสายนี้ มาจากประสบการณ์ในชีวิตจริงของคุณจงซินหรู (鍾炘儒) ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้ง Like It Formosa เมื่อครั้งที่เดินทางไปท่องเที่ยวที่กรุงซาราเยโวและมีโอกาสได้ร่วมทริปพาเดินเที่ยวชมเมืองฟรี

เมื่อครั้งจงซินหรูศึกษาอยู่ในชั้นปีที่ 5 ของคณะเศรษฐกิจการเกษตร มหาวิทยาลัยไต้หวันแห่งชาติ ได้มีโอกาสเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนที่มหาวิทยาลัย Autonomous University ที่อยู่ในเมืองบาร์เซโลนาเป็นเวลา 1 ปี เธอจึงใช้เวลาว่างหลังจากเรียนจบ เดินทางท่องเที่ยวทั่วยุโรปเป็นเวลา 4 เดือน และมีโอกาสได้ไปเยือน 33 ประเทศ

เมื่อไปถึงสโลวีเนีย เธอสังเกตเห็นว่าบนเคาน์เตอร์ของโฮสเทลที่เธอเข้าพัก มีใบปลิวโฆษณา Free Walking Tour (ทริปพาเดินเที่ยวฟรี) วางอยู่ จึงตัดสินใจไปเข้าร่วมและพบว่า “การท่องเที่ยวไม่ต้องทำการบ้านมากมาย ปล่อยให้คนในพื้นที่มาบอกกับเราเกี่ยวกับข้อมูลที่อัปเดตที่สุดได้ แถมยังไม่ต้องนัดล่วงหน้าด้วย”

เมื่อมาถึงกรุงซาราเยโว เมืองหลวงของประเทศบอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา จงซินหรูเล่าว่า “ไกด์ได้เปลี่ยนโทนเสียงในการบอกเล่าเรื่องต่าง ๆ จากเสียงสนุก ๆ มาเป็นเสียงที่แฝงด้วยความเศร้าหมอง และพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง เพื่อเล่าเรื่องราวของความขัดแย้งทางเชื้อชาติที่เกิดขึ้นในเมืองและผลกระทบที่ตามมาภายหลัง ทำให้ดิฉันรู้สึกได้ทันทีว่า ประเทศนี้ตั้งอยู่บนความขัดแย้งท่ามกลางถังดินปืนของยุโรป”

“ทริปพาเดินเที่ยวฟรีมันสุดยอดมาก ๆ จึงหวังว่าไต้หวันน่าจะมีแบบนี้เหมือนกัน” จงซินหรู นำเอาความรู้สึกนี้กลับมาไต้หวัน พร้อมกับใช้เวลาหลังเลิกงานและวันหยุดสุดสัปดาห์ในการรับสมัครไกด์เพื่อเริ่มจัดทำ “ทริปพาเดินเที่ยวฟรี” ให้เกิดขึ้นในไต้หวัน

ผู้ที่จะมาเป็นไกด์ให้กับ Like It Formosa ไม่เพียงแต่จะต้องสื่อสารภาษาอังกฤษได้อย่างคล่องแคล่ว แต่ยังต้องมีเทคนิคในการแนะนำที่สนุกสนาน เพื่อให้เหล่านักท่องเที่ยวเข้าใจไต้หวันมากขึ้น (ภาพ: หลินเก๋อลี่)

เมื่อไกด์พาเดินเที่ยวกลายเป็นไกด์อาชีพ

จากประสบการณ์ที่ได้รับเมื่อครั้งไปท่องเที่ยวที่ซาราเยโว ทำให้จงซินหรูพยายามค้นหาสิ่งที่นักท่องเที่ยวต่างชาติควรจะรู้และอยากจะรู้ อีกทั้งยังต้องเป็นเส้นทางเดินเที่ยวที่มีเฉพาะในไต้หวัน เส้นทางเดินเที่ยวสายแรกจึงเป็นเส้นทางเกี่ยวกับประวัติศาสตร์

เริ่มจากจุดแรกคือวัดหลงซาน เดินไปจนถึงปัวผีเหลียว ตึกแดงแห่งซีเหมิน ก่อนจะไปถึงจุดสุดท้ายที่อนุสรณ์สถานเจียงไคเชก โดยเฉพาะช่วงครึ่งท้ายของการเดินที่เริ่มจากทำเนียบประธานาธิบดี เดินไปตามถนนเคตากาลันที่ถือเป็นถนนแห่งประชาธิปไตยอันเบ่งบานของไต้หวัน ซึ่งไกด์ได้บอกกับสมาชิกทัวร์ว่า “มีการประท้วงและเดินขบวนเกิดขึ้นมากมายที่นี่ จึงถือเป็นจุดที่สามารถเป็นสักขีพยานแห่งประชาธิปไตยของไต้หวัน” ก่อนจะพูดถึงความสัมพันธ์ระหว่างไต้หวัน-จีน เพื่อสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับสถานะของไต้หวันในสังคมโลก ตลอดการเดินเที่ยวในทริปนี้ ทำให้เหล่านักท่องเที่ยวมีความเข้าใจใหม่ ๆ เกี่ยวกับไต้หวันมากขึ้น พร้อมกับนำไปสู่ความรู้สึกที่ให้ความเคารพต่อพัฒนาการแห่งประวัติศาสตร์ของไต้หวันเป็นอย่างมาก

เริ่มตั้งแต่ปี ค.ศ.2016 เป็นต้นมา จำนวนนักท่องเที่ยวที่สมัครมาเดินเที่ยวชมไปตามเส้นทางสายประวัติศาสตร์เส้นนี้เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งครอบครัวชาวนิวซีแลนด์ก็เลือกมาเดินเที่ยวตามเส้นทางสายนี้เช่นกัน แถมยังมีนักท่องเที่ยวไปโพสต์ข้อความบน TripAdvisor ว่า ในบรรดาทริปเดินเที่ยวทั้งหมดที่เคยเข้าร่วม ทริปของไต้หวันถือเป็นทริปที่ดีที่สุดในโลกแล้ว เมื่อได้มองเห็นความรู้สึกประทับใจของเหล่านักท่องเที่ยว ทำให้จงซินหรูรู้ว่า เธอได้ทำในสิ่งที่ถูกต้องแล้ว ในปี ค.ศ.2017 เธอจึงลาออกจากการทำงานที่ธนาคาร เพื่อมาวางแผนจัดเส้นทางท่องเที่ยวและรวบรวมสมัครพรรคพวก ก่อนจะก่อตั้งบริษัทของตัวเอง คือ Like It Formosa ขึ้น ในปี ค.ศ.2018

เส้นทางเดินเที่ยวที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวในลำดับรองลงมา ก็ยังคงเป็นเส้นทางที่อาบไปด้วยกลิ่นอายแห่งประวัติศาสตร์ คือ เส้นทางเดินเที่ยวเมืองเก่าไถหนาน ซึ่งเริ่มจากหอชื่อขั่นโหลว ต่อด้วยห้างสรรพสินค้าหลินไป่ฮั่วและพิพิธภัณฑ์วรรณกรรมไต้หวันแห่งชาติ ไถหนานเป็นเมืองที่เดินไป 3 ก้าวก็จะมีศาลเจ้าเล็ก ๆ เดินไป 5 ก้าวก็จะเจอศาลเจ้าใหญ่ ๆ ไกด์จะพาเหล่านักท่องเที่ยวไปลองชิมชาฟัก ไหว้เจ้า ลองเสี่ยงเซียมซีในศาลเจ้าเพื่อสอบถามเกี่ยวกับการแต่งงานหรือสุขภาพ ซึ่งถือเป็นโปรแกรมที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ ยังมีเส้นทางเดินเที่ยวในเมืองเล็ก ๆ ทางภาคเหนืออย่างต้าซีของเถาหยวน ซึ่งเริ่มทริปจากพิพิธภัณฑ์ระบบนิเวศแห่งศิลปะไม้ ต่อด้วยศาลเจ้าฝูเหรินกง ไปจนถึงซอยเขาวงกต ก่อนจะแวะกินเต้าหู้แสนอร่อย

ผู้ที่จะมาเป็นไกด์ให้กับ Like It Formosa ไม่เพียงแต่จะต้องสื่อสารภาษาอังกฤษได้อย่างคล่องแคล่ว แต่ยังต้องมีเทคนิคในการแนะนำที่สนุกสนาน เพื่อให้เหล่านักท่องเที่ยวเข้าใจไต้หวันมากขึ้น (ภาพ: หลินเก๋อลี่)

ฉันคือไกด์ไต้หวัน

ในปี ค.ศ.2018 มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมาเที่ยวไต้หวันมากขึ้น ทำให้ลูกค้าของ Like It Formosa เพิ่มมากขึ้นถึง 3 เท่า ในช่วง 5 ปีกว่าที่ผ่านมา ได้ให้บริการแก่นักท่องเที่ยวรวมมากกว่า 36,000 คน จาก 67 ประเทศทั่วโลก โดยมาจากสหรัฐฯ มากที่สุด รองลงมาได้แก่ ฟิลิปปินส์ ด้วยอานิสงส์จากนโยบายมุ่งใต้ใหม่ ตามด้วยเยอรมนีและออสเตรเลีย ซึ่งมีลูกค้าจำนวนไม่น้อยที่ลากกระเป๋ามาร่วมเดินเที่ยวหลังลงจากเครื่องบิน และยังเคยมีบางคนที่เข้าร่วมถึง 3 ทริปภายในวันเดียว

ในปี ค.ศ.2019 จะมีไกด์คอยนำเที่ยวในแต่ละเดือนมากกว่า 40 คน คอยพานักท่องเที่ยวเดินท่องไปตามแถบต้าเต้าเฉิง มังกะ และซินอี้ โดยมีจำนวนเฉลี่ยประมาณ 100 กว่าคนต่อวัน

ไกด์ของ Like It Formosa จะมีอายุเฉลี่ยประมาณ 25-30 ปี ร้อยละ 70 ของไกด์เคยไปเรียนต่อหรือใช้ชีวิตอยู่ในต่างประเทศ และมีประสบการณ์เคยเข้าร่วมทริปพาเดินเที่ยวฟรีในต่างประเทศมาแล้ว แต่ละคนต่างก็มีความรู้สึกว่าอยากจะแนะนำไต้หวันให้ชาวต่างชาติรู้จักมากขึ้น จึงได้มาสมัครเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของบริการนี้ ก่อนที่สุดท้ายจะพบว่า สามารถสร้างรายได้ได้ด้วย โดยแม้ว่าทริปเดินเที่ยวจะเป็นทริปฟรีที่ไม่เสียค่าสมัคร หากแต่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่มักจะให้ทิปหรือของขวัญเป็นสินน้ำใจสำหรับไกด์ที่พาเดินเที่ยว หากเทียบกับในยุโรปแล้ว ก็จะได้รับประมาณ 10 ยูโร ส่วนในไต้หวันก็จะอยู่ประมาณ 200-500 เหรียญไต้หวัน ดังนั้น ไกด์ส่วนใหญ่จะได้รับเป็นของขวัญหรือธนบัตรของประเทศต่างๆ

ไกด์ที่ได้รับความนิยม ไม่เพียงแต่จะสามารถใช้ภาษาอังกฤษในการบอกเล่าเรื่องราวของสถานที่ท่องเที่ยวได้อย่างมีอรรถรส หากแต่ยังต้องรู้จักมีเทคนิคการพูดที่ดีในการแนะนำด้วย จงซินหรูยกตัวอย่างให้เราฟังว่า เมื่อเดินเที่ยวไปถึงศาลเจ้าพ่อหลักเมืองเสียไห่ (เสียไห่เฉิงหวงเมี่ยว) ที่อยู่ในแถบต้าเต้าเฉิง ไกด์จะอธิบายให้นักท่องเที่ยวฟังอย่างสนุกสนานว่า ในศาลเจ้าแห่งนี้ มีผู้เฒ่าจันทราที่คอยผูกด้ายแดงเพื่อสร้างบุพเพสันนิวาสให้เหล่าชายหญิงทั้งหลาย ถือเป็นคิวปิดอันศักดิ์สิทธิ์แห่งตะวันออก ผู้ที่มาเซ่นไหว้ที่ศาลเจ้าแห่งนี้ส่วนใหญ่จึงเป็นกลุ่มคนโสดที่อยากหาคู่ ดังนั้นถ้าจะอยู่บ้านนั่งเล่น Tinder (App หาคู่) ก็ให้มาที่ศาลเจ้าแห่งนี้จะเป็นอะไรที่ง่ายกว่าเยอะ คำอธิบายแบบนี้เล่นเอาเหล่านักท่องเที่ยวถึงกับหัวเราะท้องแข็งกันเลยทีเดียว

ก้าวสู่เส้นทางการเป็นอาจารย์สอนไกด์ภาษาอังกฤษ

โรคโควิด-19 ที่เกิดขึ้นอย่างฉับพลัน ทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวลดลงอย่างฮวบฮาบ ส่งผลให้จงซินหรูต้องเผชิญหน้ากับอุปสรรคอันใหญ่หลวงเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เริ่มก่อตั้งบริษัท เพราะตั้งแต่ต้นปี ค.ศ.2020 ไม่มีนักท่องเที่ยวสมัครร่วมทริปเลยแม้แต่คนเดียว ทำให้เธอตัดสินใจหยุดการออกทัวร์ตั้งแต่วันที่ 19 มีนาคมของปีเดียวกัน

ยังดีที่ตั้งแต่ปี ค.ศ.2018 เป็นต้นมา Like It Formosa ได้มีการแตกแขนงสู่ธุรกิจใหม่ นั่นก็คือการสอนไกด์ภาษาอังกฤษ หลังจากก่อตั้งธุรกิจ จงซินหรูมักจะได้รับคำเชิญจากสถานศึกษาหลายแห่งให้ไปบรรยาย ทำให้เธอก่อตั้งธุรกิจใหม่ขึ้น คือ Meet Up Formosa ที่มีการจัดทำหลักสูตรการสอนไกด์ภาษาอังกฤษอย่างเป็นระบบ เช่นในช่วงปิดภาคเรียนฤดูร้อนและฤดูหนาว ได้มีการจัด “แคมป์ภาษาอังกฤษสำหรับนักการทูตรุ่นใหม่” รวมไปจนถึงการรับอบรมไกด์ภาษาอังกฤษอาสาสมัครให้กับพิพิธภัณฑ์สมุทรศาสตร์ไต้หวัน เพื่อส่งเสริมให้ผู้คนเรียนรู้การใช้ภาษาอังกฤษมาแนะนำไต้หวันให้กับชาวต่างชาติ

เพื่อตอกย้ำ “การศึกษาภาษาอังกฤษ“ จงซินหรูจึงได้ชวนคุณหวงจ้งอี๋ (黃仲儀) ซึ่งเคยเข้าร่วมการอบรมครั้งแรกมาเป็น Chief Operating Officer (C.O.O.) หรือกรรมการผู้อํานวยการฝ่ายปฏิบัติการของบริษัท เดิมทีหวงจ้งอี๋ทำงานอยู่กับบริษัท Evergreen เขาเรียนจบจากภาควิชาภาษาต่างประเทศของมหาวิทยาลัยเจิ้งจื้อ (National Chengchi University : NCCU) ซึ่งเจ้าตัวคิดอยู่ตลอดว่าเสียดายที่ไม่มีโอกาสได้ใช้ความรู้ที่ร่ำเรียนมา เขาจึงตัดสินใจเบนเข็มเข้าสู่การทำงานด้านการศึกษาภาษาอังกฤษอย่างเต็มที่ “การได้ใช้ภาษาอังกฤษในการแนะนำไต้หวันให้กับชาวต่างชาติ ก็เหมือนกับยืนอยู่บนแนวหน้าของการทูตภาคประชาชน”

Like It Formosa ก้าวเดินไปสู่เส้นทางสองแขนง ทั้งการนำเที่ยวและการศึกษา จงซินหรูเชื่อว่า ความสะดวกสบายและความปลอดภัยของไต้หวัน จะทำให้นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาท่องเที่ยวด้วยตัวเองมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ การเข้าร่วมโปรแกรม “ทริปพาเดินเที่ยวฟรี” ไม่เพียงแต่จะสามารถเข้าใจไต้หวันได้มากขึ้น หากแต่ยังทำให้ท่านชื่นชอบไต้หวันมากขึ้นด้วยเช่นกัน